Website Review #2

www.amazon.com
ประเภท : ร้านขายของแบบ Specialty Stores online 
rating : * * 
การจัดองค์ประกอบหน้าร้าน : ดูเลอะเทอะ เยอะแยะ
Usability : การเชื่อมโยงจากหน้าหนึ่งไปอีกหน้าหนึ่งใช้ได้ แต่การจัดวาง รูปแบบข้อมูลดูแล้วเยอะเกินไป 

ภาพประกอบ : ไม่น่าสนใจเท่า Barnes and Noble 
download : รวดเร็ว ทันใจ ไม่อืดอาด
คำแนะนำ : เป็นข้อเตือนใจที่ดีสำหรับคนที่คิดจะทำธุรกิจขายของทางอินเตอร์เนต พวกที่คิดจะจับเสือมือเปล่าก็ดูไว้ซะว่าไม่ใช่ว่าอะไรก็ง่ายดายไปซะทั้งหมด พวกรุ่นหลังๆ หวังรวยทางลัด ก็จำไว้เถอะว่ามันไม่ง่าย นอกจากคุณจะมีข้อมูลและมีธุรกิจพื้นฐานดีอยู่แล้ว และอยากจะเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายให้มากขึ้น
amazon.com โด่งดังเป็นพลุแตกเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมาในฐานะที่เป็นร้านหนังสือ online จ้าวแรกที่ทำให้ยักษ์ใหญ่อย่าง Barnes & Noble ต้องสั่นสะเทือนถึงกับต้องลุกขึ้นมารับคำท้าสู้กันยิบตา

เพื่อดำรงความยิ่งใหญ่ไว้ให้มั่นคง ถ้าจะมีใครติดตามข่าวสารทางธุรกิจบ้างก็จะรู้ว่าในช่วงหลังๆ ความจริงก็เปิดเผย เมื่อร้านหนังสืออย่างอเมซอนซึ่งทำธุรกิจบนอากาศธาตุ ต้องพบกับความยากลำบากที่แท้จริงของการทำธุรกิจหนังสือ เมื่อไม่สามารถสร้าง stock สินค้าเพื่อสนองความต้องการของลูกค้าได้ตามอย่างที่โม้ไว้ ในระยะหลังๆอเมซอนจึงต้องเร่งปรับกระบวนยุทธ์ เพื่อจะดำรงธุรกิจทางออนไลน์เอาไว้ 
ใครเข้าไปดู amazon.com ตอนนี้จะรู้ดีว่า ในปัจจุบัน amazon.com ไม่ได้เป็นเพียงร้านหนังสือ online อีกต่อไปแล้วแต่ได้ผันตัวเองมาเป็นร้านค้าปลีก online ที่ขายสินค้าสารพัดประเภท ทั้งหนังสือ อุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ เครื่องแต่งกาย ของขวัญของชำร่วย เครื่องครัว ของเล่นเด็ก และอีกนานาชนิดแล้วแต่จะคิดกันได้ แล้วของทุกอย่างจากทุกหมวดหมู่นี้ก็จะวางโชว์หน้าร้านให้เห็นทั้งหมด เหมือนร้านโชว์ห่วยของคนจีนแบบนั้นแหละ แต่ยกระดับขึ้นมาอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เท่านั้นแหละ 
มาดูกันว่า อเมซอนวางรูปแบบร้านค้าของเขาอย่างไร
หน้าแรกเลย เปิดเข้ามาปุ๊บจะเจอกับสินค้าที่ได้ชื่อว่าเป็น Top Sellers เขาจะดึงจากสินค้าในหมวดต่างๆขึ้นมาชูเป็นสินค้าเด่น ประจำสัปดาห์ (มั้ง) แล้วก็มีคำบรรยายประกอบรูปด้วย แต่ไม่รู้ยังไงรู้สึกว่าเขาจัดวางเลอะเทอะพิกล ดูแล้วรู้สึกถูกยัดเยียด แล้วกว่าจะหาสินค้าที่ต้องการเจอ ก็ต้องไล่สายตาไปให้ถ้วนทั่วทั้งหน้าจอ ลองเข้าไปสืบค้นดูในหน้า Top Sellers เขาก็มีการจัดแบ่งหมวดหมู่ชัดเจนดี แต่พอเข้าไปดูที่สินค้าแล้วกลับรู้สึกว่าไม่น่าดูไม่น่าซื้อยังไงไม่รู้ การบอกราคาสินค้า บางครั้งก็ไม่มีการเปรียบเทียบให้ดูว่ามันประหยัดกว่าการซื้อหาตามร้านค้าทั่วไปอย่างไร บอกแต่ราคาที่ตัวเองขาย แต่ก็มีบางตัวที่จะบอกราคาเปรียบเทียบให้ดูอยู่เหมือนกัน หนังสือบางเล่มลดให้สูงถึง 70% เชียว น่าสนใจก็ตรงราคานี่แหละ

คลิกเข้าไปหน้าใน แล้วก็ยังคงเบื่อ คิดไปแล้วก็ดีเหมือนกัน ไม่เดือดร้อนกระเป๋าตังเรา เพราะไม่รู้สึกอยากซื้อน่ะ
ฟังแล้วต้องถูกกล่าวหาว่าลำเอียงแหงเลยว่ะ หรือเป็นเพราะเราเข้ามาดูตอนบ่าย ช่วงที่กำลัง crisis อยู่พอดี สมาธิที่จะสนใจก็เลยไม่มี 
แต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่ดีคือการรักษา consistency (ใช้ภาษาไทยว่าไรดี นึกไม่ออก ความสม่ำเสมอ??) เพราะไม่ว่าจะเข้าไปหน้าไหนก็ให้อารมณ์เดียวกันหมด ไม่โดดมากนัก โทนสีเป็นสีเขียวคล้ายกันกับของ Barnes and Noble แต่ไม่สบายตาเท่า 
จุดหนึ่งที่ดีสำหรับ amazon.com คือ แม้จะมีสินค้าหลากหลายประเภทให้เลือกซื้อ แต่เขาก็จัดวางระบบการขายหน้าร้าน online ได้ค่อนข้างดี ในกรณีนี้คือเมื่อเราเลือกซื้อสินค้าในหมวดใดหมวดหนึ่งเสร็จแล้ว เราอาจจะกลับไปเลือกสินค้าจากหน้าเดิมได้ต่อ (See more in the page you made) หรืออาจจะไปดูสินค้าที่หมวดอื่นได้ทันที สำหรับที่นี่เขาใช้วิธีการให้มี drop down box อยู่ในหน้า shopping cart ที่โชว์สินค้าที่เราเลือกไว้แล้ว พอ click เข้าไปแล้วก็จะเจอสินค้าของหมวดนั้น ๆ มีการเปลี่ยนโทนสีเล็กน้อย แต่สีจะไม่โดดเกินไป 
อย่างไรก็ตาม ทั้งนี้ทั้งนั้น การ review ครั้งนี้เป็นเพียงความคิดเห็นเฉพาะตัว ที่เรามี เรามองโดยสมมุติตัวเองเป็นผู้บริโภคคนหนึ่งเท่านั้น ความคิดเห็นเหล่านี้จึงเป็นเรื่องลับเฉพาะคนรู้ใจ ถามมาก็ตอบไปอย่างนี้แหละ คนอื่นอาจจะมีความคิดเห็นอื่นๆ ก็ไม่ว่ากันจ้ะ